ผ้าไมโครไฟเบอร์

เรื่องต้องรู้ของผ้าไมโครไฟเบอร์

หากว่าเอ่ยถึงผ้าไมโครไฟเบอร์ หลายๆ คนคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังตอบโจทย์การทำความสะอาดในทุกๆ ด้าน อย่างไรก็ดีใครที่ชื่นชอบการล้างหรือการเช็ดทำความสะอาดของตนเอง มาดูพร้อมๆ กันดีกว่าหรือไม่ว่าผ้าไมโครไฟเบอร์นั้นมีเรื่องอะไรที่ต้องรู้บ้าง

คุณสมบัติของผ้าชนิดไมโครไฟเบอร์

ผ้าชนิดนี้มีคุณสมบัติในการเช็ดคราบน้ำต่างๆ ได้อย่างแห้งสนิท และไม่เหลือคราบใดๆ ซึ่งผ้าชนิดนี้เป็นผ้าเส้นใยสังเคราะห์ที่ผลิตจากเส้นใยสองประเภท ได้แก่ เส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติของไฟฟ้าสถิต ซึ่งจุดเด่นของการกักเก็บฝุ่นได้เป็นอย่างดีที่สุด ในขณะที่มีโพลิเอไมด์อันเป็นคุณสมบัติในการดูดซับสิ่งสกปรก โดยสามารถเก็บได้ทั้งคราบสกปรก และคราบมันบนพื้นผิวโดยที่ไม่ต้องสร้างรอยใดๆ เลย อย่างไรก็ดีคุณสมบัติโดยรวมของไมโครไฟเบอร์จะเน้นการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ

  • เส้นใย Polyester สำหรับผ้าชนิดนี้จะใช้สัดส่วนของโพลิเอสเตอร์ต่อโพลิเอไมด์ในคุณสมบัติ 80 : 20 ซึ่งมีค่าไฟฟ้าสถิตย์ เมื่อใช้ผ้าชนิดไมโครไฟเบอร์เช็ดแล้วจะทำให้พื้นผิวแห้งจนกระทั่งเกิดไฟฟ้าสถิตขึ้น เนื่องจากว่าเส้นใยมีขนาดที่เล็กและละเอียด ทำให้คราบสกปรกรวมไปถึงฝุ่นผงต่างๆ มีขนาดเล็ก โดยเกาะติดไปกับพื้นผิวของผ้าไมโครไฟเบอร์ โดยฝุ่นเองก็จะไม่ฟุ้งและไม่ทำให้เกิดคราบใดๆ
  • เส้นใย Polyamide สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผ้านุ่มกว่าแบบแรกก็ให้เลือกเป็นผ้าโพลิเอไมด์ ซึ่งสัดส่วนจะอยู่ที่ 70:30 โดยจะมีความสามารถในการดูดซับน้ำ ทำความสะอาดผิวที่เปียกและชื้นได้ดีกว่าเส้นใยธรรมชาติทั่วไป ซึ่งจะทำให้การลดคราบสกปรก คราบไขมันต่างๆ และคราบแบคทีเรีย โดยพื้นผิวของวัสดุมีประสิทธิภาพไม่ทำให้เกิดคราบน้ำและรอยด่าง รวมไปถึงรอยขีดข่วน และสามารถกำจัดคราบสกปรกได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และลดแบคทีเรียได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และจะใช้ได้หลากหลายพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นเมลามีน เครื่องหนัง ผิวโลหะ เป็นต้น

ประโยชน์

สำหรับผ้าชนิดนี้มักนำมาทำความสะอาดพื้นผิวช่วยลดการเกิดริ้วรอย ทั้งยังเบาแรงของคนที่ทำความสะอาด ไม่เป็นขน อีกทั้งยังเช็ดได้ลื่น และซับน้ำได้อย่างดีเยี่ยม สามารถขจัดคราบสกปรกให้สะอาดในการเช็ดแค่เพียงครั้งเดียว

จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดบ้านคือการใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ และควรเลือกซื้อเผื่อเอาไว้หลายๆ ผืนเพื่อการใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

ตู้เชื่อม tig

แนะนำ  3  ข้อดีจากการใช้งานตู้เชื่อม tig ระบบเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ MOSFET มีอะไรบ้าง

ในปัจจุบัน ตู้เชื่อม tig มีการใช้เทคโนโลยีเปลี่ยนระบบกระแสไฟจากหม้อแปลงเป็นระบบ มอสเฟต ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับระบบ MOSFET  มาจากคำว่า metal–oxide–semiconductor field-effect transistor เป็นทรานซิสเตอร์ ใช้พลังของสนามไฟฟ้าในการควบคุมสัญญาณไฟ โดยอาศัยออกไซด์ของโลหะ เพื่อสร้างความต่างศักย์ (GATE)จนทำให้เกิดสนามไฟฟ้า และควบคุมสัญญาณเข้าออกของไฟฟ้า ได้รับความนิยมนำไปติดตั้งในวงจรการควบคุมสัญญาณไฟฟ้า รูปแบบของดิจิตอล

เมื่อนำเทคโนโลยีระบบฟอสเฟตเข้ามาใช้ใน ตู้เชื่อม tig ทำให้มีประสิทธิภาพในการเชื่อมและประหยัดไฟได้ดี และเราอยากขอแนะนำ  3 ข้อดีๆจากการใช้งานตู้เชื่อมด้วยเทคโนโลยีฟอสเฟต มีอะไรบ้าง

 3 ประโยชน์ที่ได้จากการใช้งานตู้เชื่อม tig ที่มีการติดตั้งระบบ MOSFET มีอะไรบ้าง

1.สามารถใช้งานตู้เชื่อม tig ด้วยระบบไฮบริดพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ได้

เทคโนโลยี Inverter มอสเฟต สามารถแปลงค่าพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ใช้สำหรับงานเชื่อมได้ดีโดยอาศัยการแปลงไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 1 ถึง 6 กิโลวัตต์ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว ตู้เชื่อม tig Mosfet Inverter สามารถแปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรงให้เป็นแรงดันแบบแปรผันได้ โดยใช้กระแสไฟจากแผงโซล่าเซลล์ ชาร์จจัดเก็บไว้กับแบตเตอรี่ สามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

2.ช่วยให้ ตู้เชื่อม tig มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบา

โดยทั่วไปตู้เชื่อมมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถนำทรานซิสเตอร์ของมอสเฟตเข้าไปควบคุมการจ่ายไฟ และปรับค่ากระแสไฟให้ดีขึ้น จึงสามารถเปลี่ยนจากหม้อแปลงมาเป็น ระบบอินเวอร์เตอร์และสวิทชิ่ง ที่มีขนาดเล็กลงกว่าการจ่ายกระแสไฟแบบหม้อแปลง จึงทำให้วงจรเล็กลงและมีผลดีต่อตู้เชื่อม tig ที่สามารถย่อขนาดให้เล็กลงแต่มีอนุภาคการจ่ายไปที่แรงขึ้น

3.ประหยัดพลังงาน แต่ส่งกระแสไฟในการเชื่อมได้เต็ม

ตู้เชื่อม tig มีการใช้ระบบทรานซิสเตอร์ประกอบไปด้วย 2 อย่างด้วยกันคือ  อย่างด้วยกันคือระบบ MOSFET Transistor และ ระบบ IGBT( Isolate Gate Bipolar Transistor) โดยใช้ระบบอินเวอร์เตอร์เข้ามาควบคุมกระแสไฟฟ้า ให้มีความละเอียดและแม่นยำมากขึ้น จะเห็นได้ว่าตู้เชื่อม tig ที่มีการติดตั้ง MOSFET Transistor จะได้กระแสไฟที่แรง มีความเสถียรสูง ทำให้เวลาเชื่อมเชื่อมได้นิ่มตึงมือกว่าระบบการจ่ายไปในลักษณะอื่นๆ

ทั้งหมดนี้จึงเป็น 3 ประโยชน์ดีๆจากการใช้งานตู้เชื่อม tig ระบบอินเวอร์เตอร์ MOSFET Transistor เพราะสามารถย่อวงจรให้เล็กลง แต่กระแสไฟแรง เชื่อมงานได้นิ่มสบายมือ และสามารถยกระดับนำไปเชื่อมชิ้นงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์หรือเชื่อมด้วยระบบไฮบริด สำหรับใครที่ต้องการ ตู้เชื่อม tig MOSFET Transistor เพื่อนำไปใช้งานเราขอแนะนำ ตู้เชื่อม 200 แอมป์ DC TIG จากแบรนด์ KOVET กระแสไฟแรง เกิดสะเก็ดน้อย ระบบไฟฟ้าเสถียร เคลื่อนย้ายได้สะดวกและช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย